รีวิว Mazda 2 High Connect สมาร์ทโดนใจด้วยนวัตกรรม Skyactiv

แนะนำ

เรียกเสียงกระหึ่มจากแฟนคลับค่ายมาสด้าได้อย่างล้นหลามสำหรับ All New Mazda 2 High Connect รุ่นปรับโฉม Minor Change 2018 เติมเต็มทุกสมรรถนะการขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ-วีฮีเคิล ไดนามิกส์ รวมถึงเทคโนโลยี i-ACTIVE SENSE ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่มาสด้าพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งช่วยให้การยึดเกาะพื้นผิวถนนรวมถึงการเข้าโค้งได้อย่างสมดุลมากยิ่งขึ้นพร้อมความคล่องตัวที่สามารถผ่านเส้นทางจราจรแออัดได้เป็นอย่างดี

Mada 2  High Connect โฉมใหม่ 2018 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 6 ของมาสด้าโดยได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด KODO DESIGN ให้ความสวยงามในทุกท่วงท่าการเคลื่อนไหวแต่แฝงไว้ด้วยความทรงพลัง อีกทั้งยังเติมเต็มทุกอัตราการเร่งผ่านขุมพลัง Skyactiv ที่ขึ้นชื่อเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ให้ความเร็วได้อย่างเต็มที่แต่ประหยัดน้ำมัน เสริมด้วยเฉดสีตัวถังที่มีให้ผู้ขับขี่ได้เลือกมากยิ่งขึ้น อาทิ สีแดง Soul Red Crystal , สีขาวมุก Snowflake White Pearl , สีเงิน อลูมินัม เมทัลลิก Aluminium Metallic และ สีดำ Jet Black

ดูเพิ่มเติม:  แลมโบกินี่ ราคา

รีวิวภายนอก Mazda 2 High Connect

Mazda 2 High Connect

ภายนอก Mazda 2 High Connect ได้รับการดีไซน์อย่างสวยงามสะท้อนจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงามและทรงพลังตามแบบสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติให้เส้นสายที่โฉบเฉี่ยวดึงดูดใจผู้พบเห็นพร้อมทั้งยังเสริมความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นจากไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ Daytime Running Lamp และ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED สีเงาดำสุดสปอร์ต สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ รวมถึงกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับพับได้ด้วยไฟฟ้า และ กระจังหน้าออกแบบพิเศษสี Gun Metallic

กระจังหน้าออกแบบพิเศษสี Gun Metallic

ไฟหน้าแบบ LED

Mazda 2 High Connect พร้อมให้สุนทรียภาพในการขับขี่ด้วยกระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวนรวมถึงที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา ส่วนด้านหลังก็โดดเด่นไม่แพ้กันด้วยสปอยเลอร์ทรงสปอร์ตพร้อมไฟท้ายนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพิ่มความสว่างมากยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในยามค่ำคืน อีกทั้งยังสะดวกมากยิ่งขึ้นจากที่ปัดน้ำฝนกระจกหลังพร้อมหัวฉีดน้ำ เสริมด้วยการติดตั้งเสาอากาศแบบครีบฉลามเฉพาะในรุ่น XD Sports High Connect และ รุ่น XD Sports High Plus L

ไฟท้ายนวัตกรรมใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้แล้ว Mazda 2 High Connect ยังให้ความสปอร์ตเพิ่มมากขึ้นด้วยปลายท่อไอเสียแบบโครเมี่ยม รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบสกายแอคทีฟ (Skyactiv Body) ที่ช่วยให้ความแข็งแกร่งพร้อมปกป้องห้องโดยสารอย่างเต็มที่ ส่วนช่วงล่าง Mazda 2 โฉมนี้ได้รับการติดตั้งแชชซีสกายแอคทีฟ (Skyactiv Chassis) และ ล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว 185/60 R16

แชชซีแบบสกายแอคทีฟ (Skyactiv Chassis)

รีวิวภายใน Mazda 2 High Connect

ภายในล้ำหน้าด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกมากมาย

ภายใน Mazda 2  High Connect ได้รับการตกแต่งอย่างประณีตด้วยวัสดุหุ้มเบาะหนังสีดำทูโทน เสริมด้วยแผงข้างประตูหุ้มด้วยหนังสีดำทูโทน และ แผงคอนโซลหน้าสีดำทูโทนอีกเช่นกัน เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ พนักพิงศีรษะเบาะนั่งด้านหน้า-ด้านหลังปรับสูง-ต่ำได้ รวมถึงพนักพิงเบาะด้านหลังแยกปรับพับ 60:40 เพิ่มความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยช่องใส่เอกสารบริเวณด้านหลังเบาะนั่งคู่หน้า ล้ำหน้าด้วยนวัตกรรมกระจกไฟฟ้าและระบบ Jam Protection ที่ตำแหน่งคนขับ อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งแผ่นปิดห้องสัมภาระด้านท้าย และ ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารตอนหน้า-หลัง

เบาะนั่งด้านคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้น

All New Mazda 2 High Connect ได้รับการติดตั้งพวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียนปรับระดับได้ 4 ทิศทาง พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Sport Paddle Shift เพิ่มความสะดวกผ่านนวัตกรรมระบบควบคุมความเร็วคงที่ Cruise Control เสริมด้วยวัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์สีดำ-บรอนซ์พร้อมระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ส่วนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่เป็นแบบสี Active Driving Display พร้อมด้วยสวิตช์ Drive Selection อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมด Sport ที่ช่วยเพิ่มรอบเครื่องยนต์เมื่อต้องการที่จะใช้ความเร็ว

สวิตช์ Drive Selection

ให้ความบันเทิงผ่านหน้าจอสีระบบสัมผัส Center Display ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณบลูทูธพร้อมสวิตช์ควบคุมที่พวงมาลัย เพิ่มเสียงกระหึ่มมากยิ่งขึ้นด้วยลำโพงกว่า 6 จุด พร้อมระบบจดจำเสียง Voice Recognition อีกทั้งยังมีฟีเจอร์เสริมอีกมากมาย อาทิ ช่องจ่ายไฟสำรองขนาด 12 v  ช่องใส่ SD การ์ด สำหรับระบบนำทาง Navigator และ ช่องเสียบ USB

หน้าจอสีระบบสัมผัส Center Display ขนาด 7 นิ้ว

 NEXT GEN’ แล้วโลกจะได้เห็น.. Mazda 6 เครื่องซูปเปอร์ชาร์จ 6 สูบ!?

รีวิวเครื่องยนต์ Mazda 2 High Connect

Mazda 2 High Connect มาพร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที พร้อมหัวฉีดโซลีนอยด์ที่ช่วยอัดฉีดน้ำมันได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ โดยอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 อีกทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษระดับ Euro 5 จากยุโรป และ ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 26.3 กม./ลิตร

ขุมพลัง Skyactiv ใน Mazda 2 High Connect

เสริมด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิง E20 โดยเครื่องยนต์รุ่นนี้เผาไหม้ได้ดียิ่งขึ้นด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 12.0:1 กอปรกับการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้นซึ่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 100 กรัม/กม. และผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษระดับ Euro 5 จากยุโรปอีกเช่นเดียวกัน

Mazda 2 High Connect ในทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ผ่านการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพแม่นยำช่วยในการเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างราบรื่นให้อัตราการเร่งได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยี Skyactiv ที่ให้การประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้นด้วยระบบ i-STOP และ ระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากมาสด้า 

ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

รีวิวระบบความปลอดภัย Mazda 2 High Connect

Mazda 2 High Connect พร้อมให้การปกป้องในทุกมิติการขับขี่ด้วยระบบเซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด ที่ผสานการทำงานร่วมกับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลังแบบ RCTA ให้ทัศนวิสัยการมองภาพด้านหลังดียิ่งขึ้นด้วยกล้องมองหลัง และ ระบบเตือนรถเมื่อมีจุดอับสายตาแบบ ABSM เสริมด้วยระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหันแบบ ESS

ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชันแบบ HLA

ให้การเข้าโค้งได้อย่างสมดุลมากยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถแบบ DSC พร้อมทั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและลื่นไถล TCS ระบบช่วยในการออกตัวบนทางลาดชันแบบ HLA ให้ความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงแบบอัตโนมัติ โดยเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ปรับระดับได้ ส่วนเข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง

โครงสร้างตัวถังนิรภัย Skyactiv

Mazda 2 High Connect 2018 ยังเพิ่มการปกป้องห้องโดยสารในทุกทริปการเดินทางด้วยคานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้าและด้านข้างพร้อมแป้นเบรกแบบยุบตัวได้ พวงมาลัยยุบตัวแปรผันตามการทำงานของถุงลมนิรภัย และ ไฟเบรกดวงที่ 3 นอกจากนี้แล้วยังให้การปกป้องมากยิ่งขึ้นด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย Burglar Alarm รวมถึงระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD

กล้องมองภาพขณะถอยหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ

สรุป

สำหรับผู้ที่สนใจ Mazda 2 High Connect ยอดรถอเนกประสงค์จากค่ายมาสด้าที่มียอดจำหน่ายมากที่สุดในปี 2018 ชูจุดเด่นด้วยนวัตกรรม Skyactiv ผสานการทำงานของระบบขับเคลื่อน ระบบเครื่องยนต์ และ ระบบความปลอดภัยได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ทั้งในแบบเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D ขนาด 1.5 ลิตร รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3 ลิตร ที่ได้รับการการันตีด้วยมาตรฐาน Euro5 จากยุโรปช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมสร้างอัตราการเร่งได้อย่างเต็มที่ในราคาเริ่มต้นเพียง 530,000 บาท เท่านั้นในรุ่น 1.3 Sports Standard นับเป็นราคาที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับรถยนต์จากค่ายอื่นใน Segment เดียวกันถือว่าคุ้มค่าในการซื้อเลยทีเดียว

อ่านบทความรีวิวอื่นๆได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติม

•  รีวิว Mazda CX-3 หรูหราในสไตล์ Crossover SUV เริ่มต้น 8.3 แสน
•  ราคาและตารางผ่อนรถ All New Mazda CX-5 2018-2019