รีวิว Chevrolet Captiva 2018 เติมเต็มในทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่
รีวิวรถ Chevrolet Captiva โฉมใหม่ล่าสุด 2018 พร้อมนำพาผู้โดยสารไปพบประสบการณ์อย่างเหนือระดับในร่าง SUV สุดสปอร์ตผสานกับฟังก์ชั่นภายในครบครัน เริ่มต้นเพียง 1.2 ล้านบาท
1. แนะนำ
สร้างความประทับใจให้ผู้ขับขี่ในทุกเส้นทางกับ Chevrolet Captiva 2018 รถอเนกประสงค์ SUV ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีสุดล้ำหน้าผสานกับการดีไซน์เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวถังในสไตล์รถอเมริกัน เสริมด้วยทางเลือกรุ่นย่อยที่มีให้อย่างจุใจถึง 5 รุ่น ทั้งในแบบเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร ขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ อัตโนมัติ AWD และ เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมทางเลือกระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ FWD รวมถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ AWD
Chevrolet Captiva 2018 ยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยการติดตั้งไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่กลางวัน Daytime Running Lights แบบ LED อีกเช่นเดียวกัน และ ท่อไอเสียแบบคู่ทรงสปอร์ต ส่วนสีตัวถังมีให้เลือกอย่างหลากหลาย อาทิ สีขาว Abalone White , สีดำ-เมทัลลิก Black Meet Kettle Metallic , สีขาว Summit White , สีน้ำตาล Auburm Brown และ สีเงิน-เมทัลลิก Stain Steel Gray Metallic ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,249,000 บาท สำหรับรุ่น 2.4 LSX AT FWD
2. รีวิว Chevrolet Captiva 2018 จากภายนอก
ภายนอก Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการดีไซน์อย่างพิถีพิถันในรูปแบบ SUV ทรงสปอร์ตที่เติมเต็มจิตวิญญาณสไตล์รถอเมริกันเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม สร้างความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงสปอร์ตพร้อมวัสดุตกแต่งแบบโครเมี่ยมที่ช่วยให้มีความหรูหราขึ้นอย่างเต็มที่ เสริมด้วยการติดตั้งไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในกลางวันแบบ LED รวมถึงไฟเลี้ยวอยู่ภายในโคมไฟดวงเดียวกัน
ระบบไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์
เพิ่มความสะดวกให้ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นผ่านฟังก์ชั่นเปิดไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟหน้าแบบ Follow Me Home ที่ช่วยส่องสว่างภายหลังจากล็อครถแล้วเพื่อให้แสงสว่างตรงทางเดินพร้อมไฟเลี้ยวหน้าหลัง สปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยกันชนด้านหน้า-หลังที่มาพร้อมแผงกันกระแทกรอบคัน และ บันไดข้างแบบ Side Step ให้ความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกเคลือบสี และ กรองแสงรอบคัน ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีกระจกมองข้างลดการเกาะตัวของหยดน้ำปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า
ท่อไอเสียแบบคู่พร้อมปลายท่อแบบโครเมี่ยม
ส่วนด้านหลังก็ได้รับการดีไซน์ให้สะดุดตาไม่แพ้กันผ่านการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED พร้อมสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ตสีเดียวกับตัวรถ สร้างความสปอร์ตมากยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังรวมไปถึงท่อไอเสียแบบคู่สุดโฉบเฉี่ยวพร้อมปลายท่อแบบโครเมี่ยม และ ราวหลังคาสี Char Coal ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยทั้งขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R18 และ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R19 พร้อมเซ็นเซอร์ถอยหลัง 3 จุด
ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/50 R19
รู้ไหมว่า รถ SUV นั้นมีข้อดีหรือข้อเสียอะไรบ้าง
3. รีวิวภายใน Chevrolet Captiva 2018
พวงมาลัยพาวเวอร์หุ้มหนังแบบ 3 ก้าน
Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการตกแต่งภายในอย่างประณีตแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของรถอเมริกันโดยแท้จริงผ่านการดีไซน์แผงคอนโซลหน้าพร้อมหน้าปัดสีดำ Jet Black เพิ่มความโดดเด่นด้วยเบาะนั่งและแผงประตูแบบหนังสีดำ โดยเบาะนั่งคนขับสามารถปรับระดับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้ารวมถึงก้านปรับหมุนบริเวณสะโพกเฉพาะที่นั่งคนขับ พร้อมไฟส่องสว่างรอบห้องโดยสารแบบ Ambient Light ที่ได้รับการติดตั้งไว้ทั้งในตอนหน้า ตอนกลางรวมถึงตอนหลัง ให้ความสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยกระจกหน้าต่างแบบไฟฟ้า และ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติแบบ Electrochromic
Chevrolet Trailblazer Z71 เข้ม สปอร์ต ตามแบบฉบับรถอเมริกัน
Chevrolet Captiva 2018 ติดตั้งเบาะนั่งภายใน 7 ที่นั่ง
สร้างความบันเทิงในทุกเส้นทางผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Chevrolet MyLink รองรับการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายผ่านสัญญาณบลูทูธ และ ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียง Siri รวมถึงการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านฟังก์ชั่น Apple Carplay นอกจากนี้แล้วยังได้รับการติดตั้งระบบแผนที่นำทางอีกด้วย เชฟโรเลต แคปติวาเพิ่มความเย็นสดชื่นผ่านระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา
หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว Chevrolet MyLink
Chevrolet Captiva 2018 ยังได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอีกมากมายโดยเฉพาะพวงมาลัยพาวเวอร์หุ้มหนังแบบ 3 ก้าน ปรับระดับสูง-ต่ำ และ เข้า-ออกได้ อีกทั้งยังติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอลพร้อมมาตรวัดแบบเรืองแสง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนพวงมาลัย Cruise Control ระบบกุญแจอัจฉริยะ แบบ PEPS เสริมด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ และ ระบบ Keyless Entry
Chevrolet Captiva 2018 เพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลังมากยิ่งขึ้น
4. รีวิวเครื่องยนต์ของ Chevrolet Captiva 2018
Chevrolet Captiva 2018 มาพร้อมทางเลือกขุมพลังที่มีให้ถึง 2 รูปแบบ โดยในแบบแรก ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร Double CVC 4 สูบ 16 วาล์ว Flex Fuel ให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 230 นิวตัน-เมตร ที่ 4,600 รอบ/นาที รองรับเชื้อเพลิง E20 และ E85
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.4 ลิตร
ส่วนอีกรุ่นมาพร้อมการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 163แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที โดยในทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Drive Shift Control นอกจากนี้แล้ว Chevrolet Captiva 2018 ยังได้รับการติดตั้งระบบตรวจวัดและแจ้งเตือนแรงลมยางแบบ Tire Pressure Measuring System ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ถึงสถานะของลมยางได้อย่างง่ายดาย
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร
ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ช่วงล่างด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-Link 4 จุด ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนเป็นเลิศ อีกทั้งยังเพิ่มความสมดุลในขณะที่ทำการขับขี่ด้วยระบบ Self-Levelizer ที่ได้รับการออกแบบให้โช็คอัพด้านหลังปรับระดับยกตัวได้อย่างอัตโนมัติ เพื่อรักษาความสูงของตัวรถด้านหน้า และ หลังให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลกัน
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Drive Shift Control
5. รีวิวระบบความปลอดภัย Chevrolet Captiva 2018
Chevrolet Captiva 2018 ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่มากมายโดยเฉพาะระบบช่วยเตือนการจราจรด้านหลังขณะถอยรถแบบ Rear Cross Traffic Alert ที่จะทำงานโดยอัตโนมัติผ่านระบบเรดาร์ และ เซ็นเซอร์ เมื่อมีการเข้าเกียร์ถอยหลัง สามารถจับการเคลื่อนไหวของรถยนต์ที่วิ่งผ่านมาทางด้านหลังและส่งสัญญาณเตือนไปที่หน้าจอ Chevrolet MyLink เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นไถลแบบ TCS
เสริมด้วยการติดตั้งระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาแบบ Side Blind Zone Alert ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ล่าสุดทำงานผ่านระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับด้านข้างของตัวรถในทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งจะทำงานอย่างอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ไฟจะกระพริบแจ้งเตือนที่กระจกมองข้างช่วยเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถยนต์คันอื่นวิ่งมาจากจุดอับสายตา อีกทั้งยังปกป้องผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยม่านถุงลมนิรภัยแบบ Curtain Airbag และ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS เพิ่มความมั่นใจมากยิ่งขึ้นด้วยคานเหล็กนิรภัยด้านข้างที่ช่วยปกป้องผู้ขับขี่จากแรงกระแทกรอบคัน
ถุงลมนิรภัยแบบ Curtain Airbag และ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS
นอกจากนี้แล้ว Chevrolet Captiva 2018 ยังได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่นด้านความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ กุญแจรีโมทคอนโทรลพร้อมระบบนิรภัยแบบ Imobilizer ระบบเบรกมือแบบ ABS ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ป้องกันการลื่นไถลแบบ TCS ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวแบบ ESC ระบบเสริมแรงเบรคแบบไฮดรอลิก HDC ระบบป้องกันการถอยหลังเมื่อขึ้นทางลาดชันแบบ HSA และ กล้องมองภาพด้านหลังขณะถอยจอด
6. สรุป
Chevrolet Captiva 2018 ยนตรกรรม SUV รุ่นเรือธงจากเชฟโรเลตที่ได้รับการปรับโฉมดีไซน์ตัวถังให้มีความสปอร์ตโดนใจนักขับในสไตล์รถอเมริกันที่เปี่ยมล้นไปด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกภายในมากมาย อีกทั้งยังให้ความบันเทิงผ่านระบบอินโฟเทนเมนท์บนหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ติดตั้งฟังก์ชั่นสั่งงานผ่านเสียงแบบ Siri รองรับการเชื่อมต่อ iPhone ผ่านแอพพลิเคชั่น Apple Carplay รวมถึงระบบแผนที่นำทางในตัว พร้อมทางเลือกเครื่องยนต์ทั้งในแบบเบนซินและดีเซลเรียกได้ว่าครบเครื่องเลยทีเดียวในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 1,249,000 บาท เท่านั้นในรุ่นเชฟโรเลต แคปติวา 2.4 LSX AT FWD นับเป็นรถที่คุ้มค่าสำหรับการจับจอง
ดูเพิ่มเติม:
โปรโมชั่น ดูทั้งหมด
โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชั่น Ford กันยายน 2565 สิทธิพิเศษจากฟอร์ดสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถแต่ยังไม่มีงบ พร้อมทั้งโปรโมชั่น Ford อื่น ๆ เช็กได้กันเลย
โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชั่น Isuzu กันยายน 2565 สิทธิพิเศษมากมายสำหรับลูกค้าอีซูซุที่ยกมาให้เลือกพิจารณากันทั้งค่าย เช็กโปรโมชั่น Isuzu ได้ที่นี่
โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชัน Nissan กันยายน 2565 สิทธิดี ๆ ส่วนลดสุดปัง สำหรับรถยนต์ผู้ที่สนใจรถยนต์นิสสัน เช็กรายละเอียดโปรโมชั่น Nissan ได้ที่นี่
โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 ดีลเด็ดโดนใจ
โปรโมชัน Suzuki กันยายน 2565 และสิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายให้ที่ Suzuki นำมามอบให้แบบจัดเต็ม!