สงสัย...ไดสตาร์ทเสียอาการเป็นอย่างไร

ก่อนการเดินทางทุกครั้ง การสตาร์ทรถ คือสิ่งแรกที่ต้องทำอยู่เสมอ ซึ่งเป็นหน้าที่ระบบการทำงานของ ไดสตาร์ท เมื่อไหร่ที่สตาร์ทไปแล้วรถยังติดเครื่องยนต์ได้ปกติก็นับว่าไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร แต่เมื่อไหร่ที่สตาร์ทแล้วเครื่องไม่ติดหรือเครื่องยนต์ติดขัด นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่า ไดสตาร์ทเสีย วันนี้เราจึงได้รวบรวมสารพัดปัญหาของ ไดสตาร์ทรถยนต์ และ ไดสตาร์ทเสีย อาการ เป็นอย่างไรบ้าง ตามไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย

ไดสตาร์ทเสียหรือเปล่า ทำไมรถสตาร์ทไม่ติด ?

ไดสตาร์ทเสียอาการเป็นอย่างไรและเมื่อเสียแล้วมีวิธีแก้ไขหรือเปล่า แน่นอนว่าไม่มีอะไรอยู่ยืนยงคงทนถาวร ยิ่งโดยเฉพาะชิ้นส่วนของรถยนต์อย่างไดสตาร์ทที่ต้องทำหน้าที่หลักช่วยให้รถยนต์สามารถสตาร์ทติดได้ ก็คงไม่แปลกและเป็นเรื่องปกติมาก ๆ ถ้าวันหนึ่งไดสตาร์ทจะไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้อีกต่อไป...แต่อาการมันจะเป็นอย่างไรล่ะ

อ่านเพิมเติม: เปลี่ยนไดสตาร์ท มอเตอร์ไซค์ ราคา

ไดสตาร์ทคืออะไร

ไดสตาร์ท คืออุปกรณ์ที่คอยทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันต่ำต่อมาจากแบตเตอรี่ผ่านการกระตุ้นด้วยกุญแจ หลังจากนั้นจะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานกล เพื่อช่วยฉุดให้เครื่องยนต์ติดและทำงานได้ สำหรับปัญหาที่พบได้บ่อยคืออาการไดสตาร์ทเสียมาจากการที่ไม่ได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากไดสตาร์ทเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีหน้าที่เพียงเพื่อสตาร์ทรถเท่านั้น สำหรับปัญหาไดสตาร์ทเสียจะมีอาการดังนี้

•    เมื่อบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทรถแล้วแต่เครื่องยนต์ยังเงียบ อาการนี้สามารถบ่งบอกได้เลยว่าไดสตาร์ทรถยนต์ของคุณได้จากไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย หรือถ้ายังไม่มั่นใจให้ลองบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทอีก 2-3 ครั้ง เพื่อเช็กดูอาการอีกที

•    แปรงถ่านในตัวไดสตาร์ทใกล้จะหมดหรืออาจจะหมดไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ควรรีบนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ในบริเวณนั้น เพื่อเข้าทำการตรวจเช็กให้มั่นใจได้ว่านี่คืออาการไดสตาร์ทเสียจริงหรือไม่

•    สตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้วแต่มีเสียงดังผิดปกติ ถ้าหากว่าลองบิดกุญแจหรือกดปุ่มสตาร์ทดูแล้วพบว่าเครื่องยนต์ติดปกติ แต่มีเสียงครืดคราดก็ให้รีบนำรถเข้าไปตรวจเช็กให้เรียบร้อย เพื่อดูว่าอาการดังกล่าวมีสาเหตุมาจากไดสตาร์ทหรือไม่

ไดสตาร์ทอยู่ตรงไหน

ไดสตาร์ทเสีย...แต่ว่ามันอยู่ตรงไหนล่ะ

ไดสตาร์ทรถยนต์อยู่ที่ไหน...แน่นอนว่าหน้าที่ช่วยหมุนเครื่องยนต์จะไปอยู่ไหนได้ถ้าไม่อยู่ติดกับเครื่องยนต์ โดยแกนข้างหนึ่งของไดสตาร์ทจะมีฟันเฟืองติดอยู่ซึ่งจะยื่นเข้าไปใกล้กับฟลายวีล กลไกภายในชุดมอเตอร์สตาร์ทจะดันแกนของไดสตาร์ทเข้าไปขับกับกลไกฟลายวีลเพื่อหมุนฟลายวีล

เมื่อฟลายวีลหมุน เพลาข้อเหวี่ยงก็จะหมุนตามทำให้ก้านลูกสูบและลูกสูบเคลื่อนที่ รวมทั้งวาล์วไอดี-ไอเสีย ก็จะเริ่มเปิด-ปิด ขณะเดียวกันคอยล์จุดระเบิดก็จะเริ่มจ่ายไฟไปให้หัวเทียนเพื่อให้เกิดการจุดระเบิดจนเครื่องยนต์ทำงานได้ ถ้าหากไดสตาร์ทเสียจะทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดก็ต้องเปลี่ยน

ไดสตาร์ทเสียอาการเป็นอย่างไร

• เสียงไดสตาร์ทหมุน (ทำงาน) แต่เครื่องยนต์ไม่หมุน อาจเกิดจากชุดชุดเฟืองหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในไดสตาร์ท
• ไดสตาร์ทหมุน เครื่องยนต์หมุน แต่สตาร์ทติดยาก อาจเป็นปัญหาจากระบบไฟทำให้ไดสตาร์ทไม่มีแรงพอสตาร์ทรถยนต์
• ไดสตาร์ทไม่หมุน กรณีแบตเตอรี่สมบูรณ์มีไฟเพียงพอเป็นปกติ อาจเกิดจากแปรงถ่านในไดสตาร์ทหมด หมด สามารถให้อู่แกะซ่อมเปลี่ยนเฉพาะแปรงถ่านได้ หรือเปลี่ยนไดสตาร์ทใหม่ทั้งตัวเลยก็ได้ แต่จะมีราคาสูงกว่า

การแก้ปัญหาเบื้องต้นควรทำอย่างไร ?

เมื่ออาการทั้งหมดที่กล่าวไปนั้นได้เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณเป็นที่เรียบร้อย ต่อมาเป็นวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อถึงเวลาที่ไดสตาร์ทเสีย เพื่อทำให้รถกลับมาติดเครื่องยนต์อีกครั้งหนึ่งและสามารถรีบขับเข้าไปยังศูนย์บริการหรืออู่ให้ช่างตรวจเช็กดูอย่างละเอียด

•    สตาร์ทรถอย่างรวดเร็ว หาเครื่องยนต์ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้คุณสามารถขับรถต่อไปยังอู่ที่ใกล้เคียงที่สุด เพื่อให้ช่างตรวจเช็กดูอาการที่แท้จริงได้

•    เข็นรถ สำหรับรถเกียร์ธรรมดาให้ใช้วิธีเข็นรถ โดยเริ่มต้นจากการเข้าเกียร์ 1 เหยียบคลัตช์ และบิดกุญแจไปที่ตำแหน่งขวาสุด เพื่อให้ไฟที่หน้าปัดแสดงผล หลังจากนั้นเมื่อเข็นความเร็วได้พอสมควรแล้วให้ปล่อยคลัตช์แล้วเหยียบคันเร่ง ถ้าหากว่าเครื่องยนต์ติดก็ให้แตะเบรกเอาไว้เพื่อขับประคองไปยังอู่ใกล้เคียงต่อไป

•    นำโลหะเคาะที่ไดสตาร์ท วิธีนี้สำหรับผู้ที่มีรถยนต์เกียร์อัตโนมัติให้เริ่มจากการมองหาโลหะที่ใกล้ตัวมากที่สุด เช่น แม่แรง หรือประแจถอดล้อ ให้ทำการเคาะเบาๆ ประมาณ 3-4 ครั้ง ตรงบริเวณทรงกลมสีดำที่มีสติกเกอร์ติดอยู่ หลังจากนั้นให้ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ดูอีกครั้ง ถ้าหากว่าเครื่องยนต์ติดปกติก็ให้รีบขับไปยังอู่ใกล้เคียงได้ทันที

ไดสตาร์ทเสีย...จะซ่อมเอง ?

วิธีป้องกันไม่ให้ไดสตาร์ทเสียเร็ว

ถึงแม้ว่าไดสตาร์ทจะมีหน้าที่คอยทำให้เครื่องยนต์ติดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ในรถยนต์ที่ไม่ควรมองข้าม และควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อดูแลรักษาให้ไดสตาร์ทสามารถใช้งานได้อย่างปกติและเป็นการยืดระยะการใช้งานออกไปได้นานขึ้นกว่าเดิม โดยมีวิธีป้องกันไดสตาร์ทดังนี้

เมื่อไหร่ที่บิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถยนต์ ไม่ควรบิดแล้วแช่ทิ้งไว้เป็นเวลานาน เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วให้ปล่อยมือออกทันที เนื่องจากการบิดกุญแจทิ้งไว้นานอาจส่งผลให้ไดสตาร์ทเสื่อมเสียและไหม้ได้ ไม่ควรปล่อยให้ฝุ่นละออง คราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกต่างๆ มาเกาะที่บริเวณไดสตาร์ท เพราะจะทำให้ตัวแปลงถ่านเกิดความสกปรก ส่งผลให้ไดสตาร์ทไม่หมุนทำงานอย่างที่ควรเป็นและไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ควรปล่อยให้น้ำหรือความชื้นเข้าไปเกาะที่ไดสตาร์ท เพราะจะทำให้แปลงถ่านเกิดการขัดตัวได้และส่งผลให้ไดสตาร์ทไม่หมุนทำงาน นอกจากนี้ยังทำให้อุปกรณ์ภายในเป็นสนิมและเกิดความเสียหายขึ้นได้

นอกจากนี้ผู้ใช้รถและผู้ขับขี่ควรหมั่นสังเกตหรือคอยฟังเสียงของเครื่องยนต์อยู่เสมอ เพราะถ้าหากว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาจะสามารถทำการแก้ไขได้ในทันที อีกทั้งผู้ขับขี่ควรนำรถยนต์เข้าตรวจเช็กสภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความอุ่นใจและให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกการเดินทางจะปลอดภัยอย่างแน่นอน

หากพบอาการรถเริ่มสตาร์ทยากหรือสตาร์ทไม่ติด (เงียบสนิท) ถ้าแบตเตอรี่สมบูรณ์ ไดชาร์จสมบูรณ์ (ไฟในแบตเตอรี่เต็ม) เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากไดสตาร์ทเสีย หากไม่มีความรู้ ไม่มีทักษะ ไม่มีเครื่องมือ ไม่จำเป็นต้องพยายามแก้ไขด้วยตนเองเพราะเปล่าประโยชน์ (ให้ช่างได้ทำมาหากินบ้าง) ถ้ายังพอสตาร์ทได้ให้รีบขับไปอู่หรือศูนย์บริการให้ช่างที่มีความชำนาญกว่าช่วยตรวจสอบ แต่ถ้าสตาร์ทรถไม่ได้ ไม่มีใครมาช่วยเหลืออย่าเสียเวลา...โทรเรียกรถสไลด์คือคำตอบสุดท้าย

ติดตามข่าวล่าสุดได้ที่: https://khaorot.com/

อ่านเพิมเติม:

• วงจรไฟฟ้ารถยนต์เบื้องต้นมีความสำคัญอย่างไร
• ไดนาโมรถยนต์คืออะไรและจำเป็นมากแค่ไหน