เปรียบเทียบ Ford Fiesta กับ Mazda2 น่าขับทั้งคู่แล้วจะซื้อคันไหนดี ?

เปรียบเทียบ Ford Fiesta กับ Mazda2 น่าขับทั้งคู่แล้วจะซื้อคันไหนดี ?

ด้วยกระแสความนิยมของรถยนต์สองรุ่นนี้จะสวนทางกัน ฝั่งหนึ่งขายดีจนกลายเป็นรุ่นชูโรงให้กับค่ายอย่าง Mazda2 ส่วนอีกฝั่งกลับเป็นเหมือนเนื้อร้ายนับถอยหลังรอวันบอกลาจากตลาดเมืองไทยอย่าง Ford Fiesta จากสาเหตุปัญหาระดับชาติของ “เกียร์ในตำนาน” Powershift แต่ด้วยดีไซน์ภายนอกภายในที่ลงตัวสวยเอาเรื่องไม่ใช่น้อย อีกทั้งในเรื่องรับประกันที่ทาง Ford ปรับเพิ่มให้สำหรับรุ่นนี้ ก็อาจทำให้ผู้ซื้อมองข้ามปัญหาและจูงใจพอให้ซื้อรถรุ่นนี้ได้ เอาเป็นว่าเราไปดูในเรื่องรายละเอียดตามจุดต่าง ๆ กันก่อนค่อยมาสรุปภายหลัง และนี่คือตัวเลขความนิยมของสองรุ่นนี้ ไปดูกันว่าแต่ละรุ่นขายได้มากน้อยแตกต่างกันมากแค่ไหน จาก 3 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา

เปรียบเทียบยอดขาย Ford Fiesta กับ Mazda2 

• ปี 2015 (คัน) : Fiesta (3100), Mazda2 (19091) 
• ปี 2016 (คัน) : Fiesta (409), Mazda2 (23223)
• ปี 2017 (คัน) : Fiesta (203), Mazda2 (31760)

รถยนต์ Ford Fiesta กับ Mazda2 ดูดีทั้งคู่ คันไหนที่น่าซื้อกว่าต้องติดตาม..

จะเห็นว่าปี 2015 ตัวเลขของ Ford Fiesta ยังขายดีพอไปวัดไปวาได้ แต่หลังจากที่มีผู้ใช้รถรุ่นนี้ออกมาร้องเรียนถึงปัญหาเกียร์ “กระตุก” ทั้งมีการตั้งม็อบหน้าศูนย์ใหญ่ของ Ford ก็ดี ทั้งร้อง “สคบ.” ก็ดี เมื่อช่วงปลายปี 2015 เท่านั้นแหละ ตัวเลขยอดขายก็ตกฮวบในทันทีเหลือแค่หลักร้อย ขายได้ไม่ถึงครึ่งพันในแต่ละปี (2016-2017)  สวนทางกับอีกฝั่งอย่าง Mazda2 ที่ตัวเลขโตขึ้นทุกปีตั้งแต่มีการเปิดตัวโมเดลใหม่พร้อมกับการเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ที่มาพร้อมกับตัวเลือกของเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและดีเซล  แต่เมื่อต้องเทียบกันระหว่างสองรุ่นนี้ แต่ละรุ่นมีอะไรเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจบ้างไปดูกัน

เปรียบเทียบดีไซน์ภายนอกระหว่าง Ford Fiesta กับ Mazda2 

Ford Fiesta ภาพลักษณ์หรูหราแต่แฝงไว้ซึ่งอารมณ์สปอร์ต
การไมเนอร์เชนจ์คือคำตอบที่ลงตัวมากกว่าเดิม ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ด้านหน้ากับกระจังโครเมี่ยมใหม่แนวขวาง ขนาบข้างด้วยไฟหน้าแบบ LED ที่มีไฟวิ่งกลางวันมาให้พร้อม ด้านล่างเป็นไฟตัดหมอก เส้นสายที่น่าดึงดูดมาตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกของโมเดลนี้เรียกคะแนนความนิยมและยอดขายของรุ่นนี้ได้ไม่น้อย ขอบประตูโครเมี่ยมยิ่งทำให้ตัวรถดูพิเศษได้มากกว่า ล้ออัลลอยลายถี่ขนาด 16 นิ้วสวยจนแทบไม่ต้องไปเปลี่ยนใหม่และเพิ่มความสปอร์ตให้มากกว่าด้วยสเกิร์ตรอบคัน ทำให้โดยรวมที่ภายนอกของ Ford Fiesta ลงตัวน่าขับจนหลายคนปฎิเสธได้ยากเสียจริง ๆ 

Fiesta ผสมผสานทั้งความหรูหราและสปอร์ตไว้อย่างลงตัว

Mazda2 พกความสปอร์ตมาเต็มลำ ลบภาพจำ B-Segment แบบเดิม ๆ 
ด้วยความสปอร์ตที่มากขึ้นในโฉมปัจจุบันที่เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2015 ทำยอดขายไปแล้วกว่า 80,000 คันคือข้อพิสูนจ์ที่แสดงให้เห็นว่า Mazda2 เป็นรถที่โดนใจคนไทยอีกหนึ่งรุ่นและนิยามการออกแบบ KODO Design จาก Mazda นี้คือคำตอบ  กระจังหน้าโครมเมี่ยม Signature Wing โฉบเฉี่ยวเร้าใจ เข้ากันได้ดีกับไฟหน้าทรงสปอร์ตแบบ LED กับลูกเล่น Signature Line ที่เพิ่มความสปอร์ตเอาไว้อย่างเต็มขั้น  ไล่มาที่ด้านข้างจะเห็นเส้นสายของตัวรถที่ออกแบบมาอย่างพริ้วไหว ทำได้ดีไม่ดูขัดตา ไปจรดจนไฟท้ายที่ทำออกมาโฉบเฉี่ยวไม่แพ้ไฟหน้า เมื่อรวมเข้ากับสปอยเลอร์หลัง ปลายท่อไอเสียโครเมี่ยม และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วแบบสีทูโทนดำ-ปัดเงา แสดงให้เห็นว่า Mazda2 คันนี้คือนิยามความสปอร์ตที่สุดของรถในประเภท Sub-Compact เมืองไทย ยากที่ใครจเทียบเท่า

ดึงดูดทุกสายตากับความสปอร์ตที่มีมาอย่างเต็มขั้นของ Mazda2

เปรียบเทียบมิติตัวรถ Ford Fiesta กับ Mazda2

• ความยาวตัวถัง (mm.) ::   Fiesta (3969), Mazda2 (4060)
• ความกว้างตัวถัง (mm.) ::  Fiesta (1978), Mazda2 (1695)
• ความสูงตัวถัง (mm.) :: Fiesta (1464), Mazda2 (1495)
• ระยะฐานล้อ (mm.) :: Fiesta (2489), Mazda2 (2550)

เปรียบเทียบดีไซน์ภายในระหว่าง Ford Fiesta กับ Mazda2

Ford Fiesta แม้จะดูใหม่ไม่ตกยก แต่การใช้งานทำไม่ได้
ภายในของดีไซน์ใน Ford Fiesta ทำออกมาได้สวยลงตัวแม้โมเดลที่จำหน่ายจะถูใช้มานานแล้วก็ตาม โทนสีดำถูกนำมาใช้ตกแต่งเป็นหลัก คอนโซลหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว ช่องแอร์กลางและคอนโซลกลางทำออกมารับกันได้ดี พร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ น่าเสียดายที่ยังไม่ใช่ระบบสัมผัสและอาจจะยากนิดนึงถ้าใครจะนำไปติดเพิ่ม ส่วนของเบาะนั่งคืออีกหนึ่งจุดที่ Ford Fiesta ทำออกมาได้ดีสวยลงตัวเรียกคะแนนความน่าสนใจกลับมาได้บ้าง จากบางฟังก์ชั่นที่อาจจะไม่ครบครันเท่ารถยุคนี้เท่าไรนัก 

โดยอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Ford Fiesta มีดังต่อไปนี้:

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น (ควบคุมเครื่องเสียง, มาตรวัด)
• พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
• ปุ่ม Push Start/กุญแจ Immobilizer
• ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ
• มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองพร้อม Eco Mode
• ไฟตกแต่งห้องโดยสาร
• จอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ 
• วิทยุเครื่องเสียงเล่น CD/MP3 รองรับการเชื่อมต่อ AUX, USB, iPod, Bluetooth
• ระบบสั่งการด้วยเสียง Sync 
• ลำโพง 6 จุด

Fiesta ดีไซน์ภายในสวยล้ำ แต่ยังขาดไปซึ่งความครบครันในการใช้งาน 

Mazda2 อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันโดดเด่น ผสานการออกแบบที่สปอร์ตลงตัว
ความน่าสนใจที่สุดเรื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ Mazda ใส่มาให้กับ Mazda2 จนรถรุ่นอื่นอิจฉา ความเป็นเอกลักษณ์จากอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนใครถือเป็นจุดขายสำคัญของรถรุ่นนี้ อาทิเช่น จอใส ๆ Active Driving Display, ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Command ไว้หมุนปรับสั่งการทำงานได้ง่ายขึ้น เมื่อผนวกเข้ากับดีไซน์สวย ๆ ของภายในที่มาในโทนสี All Black ยิ่งทำให้ภายในของ Mazda2 กลายเป็นหนึ่งรุ่นของรถ Sub Compact ที่สวยที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้  

โดยอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Mazda2 มีดังต่อไปนี้

• เบาะหนังสีทูโทน
• พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น (รับสาย-โทรออก)
• ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control)
• ปุ่ม Push Start/กุญแจ Immobilizer
• มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก
• ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
• หน้าจอ Active Driving Display แบบสี
• ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Command
• ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
• หน้าจอสี Center Display หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ช่องรองรับ SD Card, Bluetooth
• ลำโพง 6 ตัว

ภายในหรูหราแฝงความสปอร์ต ลงตัวด้วยอุปกรณ์การใช้งานที่ครบครันกว่า 

เปรียบเทียบสมรรถนะระหว่าง Ford Fiesta กับ Mazda2

Ford Fiesta จบสุดท้ายที่เครื่องยนต์ 1.5L
เครื่องยนต์หลายขนาดถูกนำมาใช้กับโมเดล Fiesta นี้ ทั้ง “จิ้วจี๊ดจ๊าด” 1.0L EcoBoost หรือตั้งแต่ต้นโมเดลที่มากับขนาดเครื่องยนต์ 1.6L, 1.4L และรุ่นเหล่านั้นก็ค่อย ๆ ถูกถอดไปจากโมเดล เหลือจำหน่าย ณ ตอนนี้ (08/2018) เพียงรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L Duratec แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Ti-VCT กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 112 แรงม้ากับแรงบิด 140 Nm ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ Powershift Dual Clutch 6 Speed พร้อมความประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นกับ Eco Mode รองรับน้ำมันสูงสุดประเภท E85 ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิกส์เบรก ด้านหลังเป็นดรัมเบรก 

Fiesta เหลือไว้เพียงเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L ไว้จำหน่ายเท่านั้น

Mazda2 สุดกว่าด้วยเครื่องยนต์ดีเซล
อีกขั้นของรถในคลาส B-Segment ที่ Mazda ยัดเครื่องยนต์ในแบบดีเซลมาเป็นทางเลือกที่เหนือกว่า กับเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1.5L SKYACTIV-D 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว แรงม้าได้มาอยู่ที่ 105 แรงม้ากับแรงบิดอีกกว่า 250 Nm  จับคู่กับระบบขับเคลื่อนเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ระบบเบรกเป็นดิกส์เบรกทั้งหน้า-หลัง  นอกจากนี้ Mazda2 ยังมีเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3L ให้เลือกอีกด้วย

เครื่องยนต์ดีเซล 1.5L SKYACTIV-D รุ่นเดียวในคลาสที่เป็นเครื่องยนต์ประเภทดีเซล

เปรียบเทียบด้านสมรรถนะของ Ford Fiesta กับ Mazda2

• น้ำหนักตัวรถ (กิโลกรัม) : Fiesta (1153), Mazda2 (1054)
• ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วินาที): Fiesta (12.1), Mazda2 (14.6)
• ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) : Fiesta (180), Mazda2 (179)
• อัตราการสิ้นเปลืองในสภาวะรวม (กิโลเมตรต่อลิตร) : Fiesta (17.5), Mazda2 (23.3)

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Ford Fiesta กับ Mazda2

Ford Fiesta ได้มาครบในระบบความปลอดภัยพื้นฐาน 
นอกจากเรื่องโครงสร้างเหล็กนิรภัย “โบรอน” ที่ทาง Ford เคลมมาให้กับ Fiesta ถึงคุณภาพที่ปลอดภัยมากกว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว อุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ “พื้นฐาน” Fiesta ก็ถูกจัดมาไว้ให้อย่างครบครัน ทั้งถุงลมคู่หน้า และระบบที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งกว่า ไม่ว่าจะเป็น  

• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
• ระบบกระจายกำลังเบรก EBD
• ระบบช่วยเบรกอิเล็กทรอนิกส์
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP
• ระบบช่วยออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA 
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง  

ถุงลมคู่หน้าพร้อมโครงสร้างเหล็กนิรภัยคืออุปกรณ์ชูโรงจาก Fiesta 

Mazda2 เหนือกว่าใครในคลาสด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย
เด่นกว่าใครในคลาสเดียวกันด้วยระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ใน Mazda2 ทั้งระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA ถือเป็นจุดเด่นจนทำให้รถรุ่นนี้ขายดีกว่าใคร อีกทั้งความปลอดภัยอื่น ๆ ก็มีมาให้ครบครันทั้งถุงลมคู่หน้าและระบบอื่น ๆ ที่จะช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นดังต่อไปนี้ 

• ระบบเบรก ABS  
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC
• ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESC
• ช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA
• ระบบป้องกันรถลื่นไถล TCS
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM  
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง RCTA

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM ของ Mazda2

สรุป

น่าขับทั้งคู่แล้วจะซื้อคันไหนดี ? ระหว่างสองรุ่นนี้ Ford Fiesta กับ Mazda2  เมื่อมองที่ภายนอกถือว่าสวยพอกันให้อารมณ์กันคนละแบบคนละสไตล์ รุ่นไหนบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้มากที่สุดก็เลือกได้ถ้าอิงแค่ภายนอก  แต่! ภายในคือความได้เปรียบของฝั่ง Mazda2 ที่ทำได้ลงตัวทันยุคกว่ากับอุปกรณ์การใช้งานที่ครบครัน แม้เรื่องดีไซน์ทาง Ford Fiesta ถือว่าทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แต่ยังขาดไปซึ่งอุปกรณ์การใช้งานที่ยังไม่ค่อยตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่ได้เท่า Mazda2 นัก เรื่องเครื่องยนต์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ Mazda2 ได้เปรียบกว่าทั้งความเป็นเครื่องยนต์ดีเซลทนทานและประหยัดน้ำมันกว่า อีกทั้ง Ford ยังคงทนใช้กับระบบเกียร์เจ้าปัญหา Powershift ซึ่งถือเป็นตัวตัดคะแนนที่ทำให้รถรุ่นนี้น่าซื้อน้อยลง  เมื่อผู้ซื้อรถยุคนี้สามารถหาข้อมูลก่อนซื้อได้ง่ายขึ้น Ford ก็ควรแก้ไขเพื่อให้ความเชื่อมั่นของรถในประเภทเก๋งของค่ายมีมากกว่านี้ 

เทียบตามเงื่อนไขต่าง ๆ Mazda2 ได้เเปรียบกว่า Ford Fiesta หลายจุด 

เรื่องความปลอดภัยก็ด้วย Mazda2 ทำให้น่าสนใจกว่าด้วยสองระบบความปลอดภัย ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง RCTA ที่แม้ถุงลมจะให้มาแค่สองใบคู่หน้าเท่ากันแต่ก็พอทำให้ภาษีดีกว่า Ford Fiesta ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก 

สรุปแล้วโดยรวมระหว่างสองคันนี้ที่ราคาไม่ห่างกันมาก ถ้าตัดไปซึ่งเรื่องดีไซน์ที่ความชอบแต่ละคนนั้นแตกต่าง มองที่อุปกรณ์ที่ให้มาและความเชื่อมั่นในการใช้งานคงต้องยกให้ Mazda2 น่าซื้อกว่าเป็นคำตอบสุดท้าย

แล้วคำตอบของคุณละคือรุ่นไหน และเพราะอะไรอย่าลืมบอกกับเราใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้นะ 

ดูเพิ่มเติม:
เท่แบบไม่ยั้งกับ Ford Fiesta ในการตกแต่งแบบ Racing Style
ราคาและตารางผ่อนรถ Ford Fiesta 2018 ที่ทาง Ford จัดมาให้ Ford Fiesta 2018